แป้งทาตัวทำให้เกิดมะเร็งหรือไม่
เป็นข่าวดังเมื่อเกิดการตัดสินของคณะลูกขุนในเซ็นหลุยส์ รัฐมิสซูรี ประเทศอเมริกา ตัดสินให้บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จ่ายเงิน 72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กรณีการไม่แจ้งเตือนความเสี่ยงการใช้แป้งกับจุดซ้อนเร้นของผู้หญิงซึ่งอาจก่อให้เกิดมะเร็งรังไข่ได้ โดย 10 ล้านดอลลาร์ให้แก่ครอบครัวของ Jackie Fox คุณแม่วัย 62 ปีที่เสียชีวิตจากมะเร็งรังไข่ และ 62 ล้านดอลลาร์สำหรับการลงโทษตามกฎหมาย
แป้งฝุ่นหรือแป้งทาตัวทำมาจากแร่ทัลค์ (Talc) ที่มาบดละเอียดเป็นผงแป้งทัลคัม (Talcum powder) สูตรทางเคมีคือไฮเดตรแมกนิเซียมซิลิเกต Mg3Si4O10(OH)2 มีคุณสมบัติดูซับความชื้น ลดการเสียดสี และลดผื่นคัน
ภาพซ้ายก้อนแร่ทัลค์ จาก Wikipedia ภาพขวาแป้งฝุ่น โดย Austin Kirk
ก่อมะเร็งหรือไม่?
การวิจัยทางการแพทย์ผลกระทบของการใช้ Talc กับการเป็นมะเร็งนั้นยังไม่แน่ชัด (Mixed) มีรายงานที่มีผลให้เกิดมะเร็งเร็งและไม่ก่อให้เกิดมะเร็งผสมกัน จะก่อมะเร็งก่อต่อเมื่อมีส่วนผสมของแร่ใยหิน แต่ปัจจุบันไม่มีผลิตภัณฑ์แป้งที่มีส่วนประกอบของแร่ไยหินแล้ว
การทดลองในห้องแลบ ใช้สำหรับทดลองในจานทดลองหรือการทดลองในสัตว์ ซึ่งอาจจะมีผลหรือไม่มีผลในคนก็ได้ พบว่า มีทั้งผลการทดลองที่มีผลให้เกิดมะเร็ง และผลการทดลองที่ไม่มีผลให้เกิดมะเร็งผสมกัน
การวิจัยในคน
มีข้อสังเกตว่าแป้งอาจก่อให้เกิดมะเร็งรังไข่ โดยการใช้แป้งบริเวณอวัยวะเพศจะทำให้แป้งบางส่วนหลุดเข้าไปในช่องคลอดเดินทางไปสู่รังไข่ หากใช้เป็นประจำจะทำให้เกิดการสะสมจนก่อให้เกิดมะเร็งได้ ผลการวิจัยในผู้หญิงมีทั้งสองแบบคือ เพิ่มความเสี่ยงให้เกิดมะเร็งเล็กน้อยกับไม่มีผลให้เพิ่มความเสี่ยงใดๆ
รายชื่อสารก่อมะเร็งของ IARC ขององค์การอนามัยโลก(WHO) แป้งฝุ่นอยู่ในกลุ่ม “อาจจะก่อมะเร็ง” ในกรณีที่ใช้บริเวณอวัยวะเพศหญิง แต่สำหรับการใช้ในบริเวณอื่นในอยู่ในกลุ่ม “ไม่ก่อมะเร็ง”
กล่าวโดยสรุปคือ ไม่ควรทาแป้งบริเวณอวัยวะเพศหญิงเป็นประจำอาจจะก่อให้เกิดมะเร็งได้
แหล่งข้อมูล
Telegraph, AP, USA today, Cancer.org
เพิ่มเติม
Punpunsara.com - ปันปันสาระ 