เทคนิคการฝึกภาษาอังกฤษของผม
จากประสบการณ์ของผม ผมขอสรุปสั้นๆว่าความสามารถด้านภาษาอังกฤษขึ้นอยู่กับ “ชั่วโมงบินที่ตั้งใจ” เหมือนกับกัปตันเครื่องบินที่เชี่ยวชาญมากขึ้นเมื่อชั่วโมงบินมากขึ้น เพื่อนๆสมัยเรียนถามว่าทำยังไงให้อ่านภาษาอังกฤษได้ พอบอกเทคนิคไปก็หายจ้อย แล้วก็กลับมาถามเหมือนเดิม คือแบบว่าไม่มีชั่วโมงบินจะเก่งได้ยังไง ต่อให้รู้เทคนิคเยอะถ้าไม่ฝึกฝนยังไงก็ลืม
การอ่าน
สมัยก่อนยังอ่าน Textbook ไม่เป็น ผมก็บังคับตัวเองนั่งอ่านทุกๆวันวันละ 2-3 ชั่วโมง บทแรกๆใช้เวลาอ่านนานมาก เปิดดิกตลอด ลิสต์คำศัพท์ใหม่ยาวเป็นหางว่าว บทหลังๆเริ่มง่ายละ อ่านคล่องขึ้น เหมือนสมองคุ้นเคยกับ pattern ของมัน คำศัพท์ใหม่น้อยลงเพราะว่าใช้ซ้ำๆ อ่านข่าวภาษาอังกฤษบ้างเพราะรูปแบบภาษาจะต่างจากหนังสือ Textbook
การฟัง
ผมฝึกจากดูคลิปในยูทูป เปิดดูบ่อยๆ เข้าใจมั่งไม่เข้าใจมั่ง หลังๆเริ่มคุ้นเคยจนจับใจความสำคัญได้ พวกคลิปการสอนหรือเกี่ยวกับสารคดีจะฟังง่าย เพราะพูดไม่เร็ว ย้ำประโยคเพื่อความเข้าใจ ถ้าไม่ไหวเปิดซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษ การฟังในชีวิตประวันให้ดูหนังซีรีย์พวกซิตคอม ที่มันเป็นฉากๆ ชอบคุยตลกๆหรือดราม่าเถียงกัน พวกนี้จะใช้ภาษาที่เราใช้พูดปกติในชีวิตประจำวัน มีแอ็คติ้ง มีรูปแบบการใช้น้้ำเสียงเป็นธรรมชาติ เวลาไปดูหนังที่โรงภาพยนต์พยายามเลือกรอบที่เป็นซาวด์แทรค พากษ์อังกฤษซับไทย หรือถ้าบ้านติดจาน TrueVisions ยิ่งดี ดูหนังพวกช่อง HBO ที่เป็นมีซับภาษาไทยขึ้นบนจอ บางคนอาจจะบอกว่ามัวแต่อ่านแล้วไม่ดูไม่สนุุก คุณลองดูไปเรื่อยๆคุณจะเริ่มชินกนมัน สมองเริ่มแบ่งมาดูหนังมากกว่าเดิม แถมจะทำให้คุณคุ้นเคยกันการพูดภาษาอังกฤษโดยไม่รู้ตัว ถ้าบ้านไม่ได้ติดก็ดูจากแผ่นดีวีดีเอาแต่ผมว่าติดแล้วถูกกว่าซื้อเป็นเรื่องๆนะครับ ถ้าไม่มีตังค์เลยก็ดูยูทูปนั่นแหล่ะครับ ต้องเป็นหนังก็ได้ เพราะมีเนื้อหาดูเพียบ หลากหลายด้าน เลือกด้านที่คุณชอบสิครับแล้วคุณจะมีความสุขในการดู
การพูด
โชคดีผมเจอเพื่อนฝรั่งได้ฝึกพูดบ้าง แรกๆฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเนื่องเค้าพูดอังกฤษสำเนียงฝรั่งเศส พูดเหมือนอมอะไรไว้ ออกเสียงตัว H เป็น อ.อ่างเต็มเลย พอคุยไปได้ประมาณหนึ่งเดือนเริ่มคุยกันส่วนใหญ่รู้เรื่อง เริ่มจับสำเนียงมันได้ คิดคำพูดในสมองลดลง พูดออกทันทีมากขึ้น แต่ถ้าไม่ได้คุยนานๆแล้วมาเจอกันทีความคล่องจะลดลง แต่ไม่เป็นไรใช้ภาษากายเข้าช่วยเด๋วเค้าจะบอกว่าต้องพูดยังไง ถ้ายากไปให้หาเพื่อนต่างชาติชาวเอเชียสำเนียงจะฟังง่ายกว่าเพราะใกล้เคียงกับสำเนียงไทย ความประหม่าจะน้อยกว่าชาวตะวันตก เพื่อนชาวเนปาลของผมพูดภาษาอังกฤษคล่องมาก เค้าบอกว่าที่ประเทศเขาบังคับพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่ประถม วิชาส่วนใหญ่สอนเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าไม่ฝึกภาษาอังกฤษก็จะคุยกันคนอื่นไม่ได้ นอกจากนั้นทำให้คุ้นเคยการพูดภาษาอังกฤษตลอดเวลา ผมบอกได้เลยว่าถ้ามีโอกาสได้เจอชาวต่างชาติให้เสนอหน้าเข้าไปคุยด้วย คุยไม่รู้เรื่องช่างมันมันจำเราไม่ได้หรอก แต่ถ้าตีสนิทได้ยิ่งดีจะได้มีโอกาศได้คุยกันบ่อยๆ อย่างน้อยก็ได้แชทคุยกันผ่าน Facebook
การเขียน+แกรมมาร์
อันนี้ต้องอ่านให้ได้พื้นฐานก่อน เอาแค่เบสิค ม.ปลายก็ใช้ได้แล้ว เรื่องการเขียนอธิการบดีผมเคยสอนว่าให้ฝึกเขียนวันละอย่างน้อยหนึ่งประโยคทุกวัน ไม่ต้องซับซ้อนมากก็ได้ ใช้คำศัพท์ทั่วไปหรือใช้คำศัพท์จากที่เราท่อง จะได้คุ้นเคยกับศัพท์นั้นมากขึ้น จะได้ไม่สับสนว่าคำเป็นนี้เป็นคำนาม คำคุณศัพท์ หรือคำกริยา
ประมาณนี้ล่ะครับ ย้ำอีกครั้งขึ้นอยู่กับ “ชั่วโมงบินที่ตั้งใจ” ลองจัดตารางเวลาให้กับการฝึกภาษาอังกฤษวันละ 1 ชั่วโมงดูสิครับ อย่างน้อยจะเห็นความก้าวหน้าแน่นอน รับรองว่าเห็นผลได้ในสามเดือน อิอิ ทุกวันนี้ผมก็ยังฝึกอยู่เรื่อยๆ สู้ๆนะครับ
อันนี้แถมนี้ เทคนิคการเรียนให้ได้เกรด A เขียนไว้เมื่อหลายปีก่อน เผื่อว่าจะคนที่ยังเรียนอยู่จะสนใจ